วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ความสำคัญของสีแต่ละประเภท

เรื่องของบ้านสีทาบ้านก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้บ้านดูสวย และไม่ใช้เรื่องง่าย ที่ใครชอบสีอะไรก็เอาสีนั้นHomebaanไม่ คิดว่ามันจะง่ายแบบนั้นนะ เพราะบางที่เราทาสีบ้านทีเราเลือกแล้วแต่ได้สีไม่สวยอย่างที่คิดไว้ ก็ต้องมานั้งเสียใจที่หลังปัจจุบันนี้เค้ามีเทคโนโลยีการผสมสี ซึ่งสามารถผสมสีออกมาเป็นร้อยเฉดเลยล่ะเมื่อมันมีสีให้เลือกเยอะ ก็ยิ่งทำให้ตัดสินใจอยากมากขึ้น ดังนั้นHomebaanจึงนำเอาความหมายของสีหรือเรียกว่า"ภาษาสี"มาเป็นเกณฑ์ให้คุณได้ตัดสินใจกัน






สีดำ:
  • บางคนอาจจะบอกว่า "ใครจะบ้าทาสีบ้านเป็นสีดำ" คุณไม่จำเป็นต้องทาสีดำทั้งหลังคุณอาจจะทาเพียงบางส่วน หรือบ้างจุด ที่คุณคิดว่า เมื่อทาสีดำลงไปแล้วมันสวยและเท่ทำให้บ้านดูมีอิสระ เพราะความหมายของสีดำคือความเป็นอิสระ วินัย อำนาจ พลัง

สีขาว:
  • คุณจะเห็นได้ว่า บ้านเรือนส่วนใหญ่จะใช้สีขาวทาบ้านทั้งหลัง ไม่ทาภายนอกก็ทาภายใน บ้านที่ทาสีขาวจะดูง่ายๆ และสบายตา เพราะความหมายของสีขาวคือความบริสุทธิ์และยังช่วยเสริมให้สีอื่นมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

สีน้ำเงิน:
  • เมื่อก่อนหายากที่ใครจะทาบ้านสีน้ำเงิน แต่ปัจจุบันนี้เริ่มมีบ้านหลายหลังที่ทาสีบ้านเป็นสีน้ำเงิน อาจจะเพราะว่าไม่อยากเหมือนใคร หรืออยากให้บ้านดูโดดเด่นและอาจะเพราะความชอบของเจ้าของบ้านก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามมันทำให้ดูสดชื่นเพราะความหมายของสีน้ำเงินคือสงบสดชื่น เย็น รู้สึกสงบ พักผ่อน

สีชมพู:
  • ใครๆ ก็ทราบว่ามันคือ สีแห่งความรัก แต่ไม่ต้องมีความรักก็ได้แค่คุณชอบสีนี้ก็สามารถใช้สีนี้ทาบ้านของคุณก็ได้ เพราะความหมายของสีชมพูคือความสงบ ความสุภาพ อ่อนโยน ความรักเสน่หา

สีเหลือง:
  • สีนี้ก็เป็นที่นิยมพอๆ กับสีขาว เพราะมันทำให้บ้านดูส่วางขึ้น ไม่ดูเศร้าเพราะความหมายของสีเหลืองคือความชื่นบาน ความยินดีและความสนุกสนาน

สีส้ม:
  • บ้านสีส้มก็เริ่มเป็นที่นิยมกันมากขึ้น เพราะความแปลกใหม่ของสี และความคิดใหม่ๆในสังคมปัจจุบัน ทำให้เราได้เห็นบ้านสีนี้เกิดขึ้นมากมาย ความหมายของสีส้มคือความยินดี ความเด็ดขาด การเจริญเติบโตการพูดคุย

สีแดง:
  • สีนี้ก็มีบางบ้านที่ใช้ แต่ส่วนใหญ่จะใช้ทาเป็นบ้างจุด บ้างที่เท่านั้นความหมายของสีแดงคืออำนาจ แข่งขันความหลงใหล และเซ็กส์

สีเขียว:
  • หลายๆ หมู่บ้าน หรือหลายๆ โครงการก็มีการนำเอาสีเขียวมาใช้ เพราะสีเขียวหมายถึงความสมดุล ความสดชื่นและยังมีผลทางด้าน ความรู้สึกทางอารมณ์ ของผู้อยู่อาศัย

- สีแต่ละสีที่Homebaanแนะนำ ก็ยังสามารถแยกออกไปอีกหลายเฉดสี คุณสามารถใช่สีอ่อนหรือสีแก่ได้ตามความต้องการ และตามความเหมาะสม

บ้านเก่า หรือบ้านใหม่ก็สวยได้เพราะการทาสีบ้าน จริงไหม ดังนั้นวันนี้Homebaanจะแนะนำวิธีทาสีบ้านให้ เพื่อนๆได้ลองทำกันดู แล้วคุณจะรู้ว่าไม่อยากเลย แม้แต่ แม่บ้านอย่างคุณก็ทำได้ไม่ต้องจ้างใครให้เสียเงิน ถ้าทุกคนในบ้านช่วยกันก็ยิ่งดีเพราะครอบครัวจะได้มีกิจกรรมกันภายในบ้าน


สิ่งแรกที่เราต้องรู้ก่อนลงมือทาสีบ้านคือ
- อุปกรณ์ในการทาสีบ้าน

แปรงทาสี :

  • แปรงทาสีบ้าน มีให้เลือกหลายขนาด ก็ให้คุณเลือกใช้ให้เหมาะสมไม่เช่นนั้นแล้วมันจะเลอะ คือถ้าพื้นผิวที่เราจะทากว้าง ก็ใช้แปรงใหญ่หน่อยแต่ถ้าพื้นที่แคบก็ใช้แปรงเล็กลงมาให้ดูเหมาะกับพื้นที่
ภาชนะผสมสี :
  • สิ่งนี้ก็มีความสำคัญเช่นกัน อย่าเป็นพลาสติกบางนะ ถ้าสีของคุณต้องผสมทินเนอร์เช่น สีน้ำมัน แต่ถ้าเป็นสีน้ำก็ไม่มีปัญหา
ลูกกลิ้ง :
  • ถ้าพื้นที่ในการทาสีกว้างมาก เช่น ผนังบ้าน เราก็ควรใช้ลูกกลิ้งเพราะจะทำให้ทาเร็วขึ้น และได้สีที่เรียบเสมอกัน แล้วตามขอบ ตามมุมเราค่อยใช้แปรงเก็บสีให้เรียบร้อย


- การเตรียมพื้นผิว
ปูน :

  • ถ้าพื้นผิวที่เราจะทาสี เป็นปูนใหม่ก็รอให้แห้งสนิดก่อนหลังจากนั้นเราก็เอากระดาษทรายลูบ(ลูบนะ ไม่ใช่ขัด) เพื่อเอาเม็ดทรายหลุดออกแล้วเราก็ลงสีรองพื้นได้เลย และตามด้วยสีจริง แต่ถ้าเป็นปูนเก่าเราก็ขัดทำความสะอาดพื้นผิวที่เราจะทาเสียก่อน แล้วก็ลงสีรองพื้นและตามด้วยสีจริงอีก 2 ครั้ง เป็นอันว่าสวยแล้ว
ไม้ :
  • ถ้าพื้นผิวเป็นไม้ เราควรขัดด้วยกระดาษทราย แล้วปัดฝุ่นผงไม้ออกให้หมดแล้วถ้าสีรองพื้นกันเชื้อราก่อน แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วค่อยทาสีจริงลงไปอีก 2 ครั้ง การทาสีไม้นั้น เราต้องรอให้แห้งก่อนทุกครั้ง ก่อนที่จะทาครั้งต่อไป
โลหะ :
  • ถ้าพื้นผิวเป็นโลหะ ควรทาสีรองพื้นกันสนิมก่อน แต่ถ้าเริ่มจะเป็นสนิมหรือเป็นเพียงเล็กน้อย ก็ให้เอากระดาษทรายขัดเสียก่อน แล้วค่อยทาสีกันสนิมและทาสีจริงทับลงไป

Homebaanก็ทาสีบ้านด้วยตัวเองเช่นกัน มันสนุกมาก ทำให้บ้านเราดูใหม่อยู่เสมอ เพื่อนๆทุกคนทำได้แน่นอนเราเชื่อ แล้วเรื่องการเลือกสี ก็แล้วแต่เราชอบเพราะบ้านของเราแต่ก็อิงเพื่อนบ้านนิดหน่อยก็ดีเหมือนกันนะ เดี๋ยวบ้านเรามันจะเด่นเกินไป แต่ถ้าไม่สนใจใครก็เชิญทาสีที่เราชอบได้เลยครับพี่น้อง...

สีน้ำอะครีลิคหรือสีน้ำพลาสติก
เป็นสีที่ ใช้ทาภายนอก และทาภายในโดยสีสำหรับทาภายนอกจะมีราคาสูงกว่าสีทาภายใน แต่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมและทนทานต่อเชื้อรา ตะไคร่น้ำ หรือความเป็นด่างของพื้นผิวได้ดี ให้ความคงทนสวยงามมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
เหมาะ สำหรับอาคารพื้นผิวปูน ปูนฉาบ คอนกรีต งานก่ออิฐกระเบื้องแผ่นเรียบ อิฐ หรือพื้นผิวอื่นๆที่มีลักษณะเดียวกัน แนะนำใช้สำหรับ อาคารคอนโดมิเนียม โรงงาน ที่ต้องการความคงทนเป็นพิเศษ

สีน้ำมัน
การ ใช้สีน้ำมันมักจะใช้ในการรักษาเนื้อไม้ในการทาสีบ้านหรือในการทาสีสิ่งที่ ต้องทนกับสภาวะอากาศเช่นเรือหรือสะพานเพราะคุณสมบัติที่ทนทานและเป็นเงาทำ ให้เป็นที่นิยมใช้กันทั้งในการตกแต่งภายในและภายนอกทั้งที่ใช้บนไม้และบน โลหะ เพราะเป็นสีที่แห้งช้าการแห้งช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับความหนาของสีที่ทา

สีย้อมไม้
การ ใช้งานเหมาะสำหรับใช้กับงานไม้ภายนอกและภายในทุกประเภท เช่น วงกบ ประตู หน้าต่าง เชิงชายฝ้าระแนง บัว จั่ว ศาลา รั้วบ้าน ผนัง ราวบันได เฟอร์นิเจอร์สนามเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน บ้านทรงไทย และล็อกโฮม เป็นต้น

สีชนิดทาภายนอกอาคาร

  • คือ สีที่จะทาในส่วนภายนอกอาคารทั้งหมด ที่มีการระบุให้ทาสีรวมทั้งพื้นผิวส่วนที่เปิดสู่ภายนอก หรือพื้นผิวส่วนที่จะได้รับแสงแดดโดยตรงจากภายนอกได้ ให้ทาด้วยสีประเภทอาคิลิค (Pure Acrylic Paint )โดยทำการทา 3 เที่ยว ในการทาสีทุกชนิดโดยเฉพาะสีทาภายนอกนั้นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือการเตรียม พื้นผิวสำหรับการทาสีนั่นเอง เพราะกว่า 80 % ของการวิบัติของสี เกิดมาจาก การเตรียมพื้นผิวไม่ดี ก่อนการทาสีนั้น ต้องให้แน่ใจว่าพื้นที่จะทานั้น แห้งสนิท ไม่มีสภาพ เป็นกรดด่าง หรือมีฝุ่นเกาะ ควรเป็นผนังที่ฉาบเรียบ ไม่มีรอยแตกให้เห็น หากมีต้องทำ การโป๊วปิดรอยต่อ เสียให้เรียบร้อยก่อน การทาสี โดยปรกติ การทาสีทุกประเภทจะทาประมาณ 2 – 3 รอบและ ไม่ควร ทาสีเกิน 5 รอบ เพราะจะทำให้ชั้นของสี มีความหนาเกินไป และหลุดร่อนได้ง่าย

สีน้ำพลาสติกทาภายใน
  • คือ สีที่จะทา ส่วนภายในอาคาร เช่น ผนังฉาบปูนพื้นผิว ยิปซั่มบอร์ดกระแผ่นเรียบ หรือส่วนอื่นๆ ที่ระบุให้ทา ด้วยสีพลาสติก ( ทา 2-3 เที่ยว )ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะนำสีภายในใช้ทาผนังภายนอก เนื่องจากสีภายใน ไม่ทนแดดทนฝนทำให้สี หลุดร่อนได้ง่ายที่คิดว่ามีราคาถูกกว่าสีทาภายนอกตั้งแต่แรกก็จะกลายเป็น แพงกว่าขึ้นมาทันทีแถมยังเสียเวลาเสียความรู้สึกอีกด้วย เวลาสีหลุดล่อนแตกลายงาส่วนในผนังที่จะทาสีน้ำมันต้องสะอาด แห้ง และสิ่งที่สำคัญมากคือต้องไม่มีความชื้นเพราะ ความชื้นที่มีอยู่ ภายใน หากทาสีแล้วชั้นของสีน้ำมันจะทับทำให้ระบายอากาศไม่ได้และจะทำให้เนื้อสีพอง บวมออกมาได้ชัดเจนมากกว่าสีน้ำ หรือ สีอาคิลิค (Acrylic) สีในแต่ละส่วนของบ้านไม่ว่าจะเป็นภายนอก ภายใน หรือส่วนอื่นของบ้านย่อมมีรายละเอียดของสีที่ทาแตกต่างกัน 



จบเเล้วคับบบ!! ว่าเเล้วก็มาติดตามเนื้อหาใน Blog กันเลยครับผม คับผม คับผมมมม!!


สอบถามความรู้เพิ่มเติมเรื่องสีได้อีกที่ zeed.disgest@gmail.com ยินดีให้คำแนะนำคับผมมม

2 ความคิดเห็น: