
ข้อควรรู้เกี่ยวกับสีทาบ้าน
รวมถึงการทาสีเพื่อปรับปรุง แก้ไข หรือเปลี่ยนบรรยากาศภายในบ้านไม่ให้น่าเบื่อด้วยตัวเอง
แต่การเลือกซื้อสีมาใช้งานนั้นควรเลือกประเภทของสีให้ตรงกับวัสดุที่จะทาทับด้วย
โดยทั่วไปส่วนประกอบของสีจะมีอครีลิค(สารยึดเกาะ) เป็นส่วนประกอบสำคัญที่สุดในเนื้อสี
นอกเหนือจากนั้นก็จะมีผงสี, ตัวทำละลาย และสารสังเคราะห์ต่างๆ ที่ใช้เพิ่มคุณภาพสี เช่น สารกันเชื้อรา เป็นต้น
คุณภาพสีเองก็แบ่งออกได้หลายระดับ เช่นสีอะครีลิคที่นำเข้าจากยุโรป จะถือเป็นสีที่มีคุณภาพระดับเกรด A
เนื่องจากเป็นสีอะครีลิค100% มีการรับปรกันที่ยาวนาน5-10 ปี แต่ก็มีราคาสูง จึงมักใช้ในงานทาสีอาคารสูง หรือที่พักอาศัยราคาแพง
ส่วนสีเกรด B คือสีอะครีลิค100% ที่มีจำหน่ายในเอเชีย โดยสีอะครีลิคเกรดบีนั้น จะมีระยะเวลารับประกันอยู่ที่3-5 ปี
ส่วนมากใช้เป็นสีทาภายในหรือภายนอกที่พักอาศัยธรรมดา
ส่วนสีที่มีการผสมสารต่างๆ ลงไป จะจัดอยู่ในเกรดซี และดี สีอยู่ในเกรดC นั้น จะมีอัตราส่วนสารอื่นๆ30% และอะครีลิค70%
มีการรับประกันเพียงแค่1-2 ปีเท่านั้น ในขณะที่สีเกรด D คือสีมีส่วนผสมของสารอื่นมากกว่า30% ขึ้นไป
สำหรับการใช้งาน เราต้องเลือกสีให้ตรงกับวัสดุที่จะทาทับ โดยประเภทของสีจะถูกแบ่งตามวัสดุที่ใช้ทาทับ เช่น
สีน้ำอะครีลิค ใช้สำหรับทาผนังปูน และคอนกรีต มีทั้งประเภทที่ใช้ทาภายนอกและภายใน
โดยสีทาภายนอกจะมีราคาสูงกว่า เนื่องจากทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดีกว่า
สีน้ำมัน เป็นสีที่ใช้สำหรับทางานไม้และเหล็ก
สีย้อมไม้ มักจะใช้กับเฟอร์นิเจอร์ไม้ ในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนสีไม้ให้เเป็นสีที่เราต้องการ
สีเคลือบไม้ จัดอยู่ในประเภทรักษาเนื้อไม้ เช่น แลคเกอร์ต่างๆ ใช้ทาเคลือบไว้เพื่อให้เห็นลวดลายบนเนื้อไม้
สีกันสนิม ใช้สำหรับทารองพื้นวัสดุที่เป็นเหล็ก เพื่อกันสนิมก่อนจะลงสีจริงทับ
สีรองพื้น สำหรับผิวปู่น เป็นสีที่ใช้รองพื้นผิวปูนก่อนทาสีจริงทับ เพื่อช่วยให้สีจริงที่ทาทับลงไปนั้น ยึดเกาะ กับพื้นผิวได้ดีขึ้น
จบเเล้วคับบบ!! ว่าเเล้วก็มาติดตามเนื้อหาใน Blog กันเลยครับผม คับผม คับผมมมม!!
สอบถามความรู้เพิ่มเติมเรื่องสีได้อีกที่ zeed.disgest@gmail.com ยินดีให้คำแนะนำคับผมมม
ขอบใจค้าบบ
ตอบลบขอบคุณค่ะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก
ตอบลบ